คำว่า “อวตาร” หมายถึง การแบ่งภาคลงมาเกิดของเทพเจ้า ข้อคิดเรื่องเทพเจ้าแปลงกายลงมาปรราบยุคเข็ญในโลกของชาวฮินดูมีมาตั้งแต่สมัยพระเวท และมาแพร่หลายมากในสมัยที่เกิดคัมภีร์ปุราณะและอุปปุราณะ ซึ่งกล่าวถึงอวตารของพระวิษณุ (พระนารายณ์) มากที่สุดเรียกว่า “พระนารายณ์อวตาร” คัมภีร์ ดังกล่าวอธิบายว่า นับแต่โลกเริ่มอุบัติมาจนถึงปัจจุบัน พระนารายณ์ได้อวตารมาแล้วถึง 9 ปาง ปางที่ 9 คือ ปางที่อวตารลงมาเป็นพระพุทธเจ้า อวตารของพระนารายณ์จะมีทั้งหมด 10 ปาง ปางที่ 10 จะเกิดขึ้นหลังสิ้นสุดกลียุค (คือยุคปัจจุบัน) พระวิษณุจะเสด็จลงมาบนหลังม้าขาว พระหัตถ์ถือพระแสงดาบมีประกายดุจดาวหางลงมาปราบความชั่วร้ายในโลก แล้วสร้างโลกที่บริสุทธิ์ขึ้น อวตาร 10 ปาง ของพระนารายณ์ มีลำดับดังนี้
|
การบูชาพระนารายณ์ เพื่อขอความคุ้มครองและพระองค์ช่วยขจัดภัยพิบัติ โอม พระนารายะณะราชา นามะ อุปาทะวะตายะ จันตุ ครุฑาพาหนะนายะ หะระติ ทิสะฐิตายา อาคัจฉันตุภุญ ชะตุ ขิปายะตุ วิปปะยะตุ สะวาหะ สะวาหายะ สัพพะอุปาทะวะ วินาสายะ สัพพะ อันตะรายะ วินาสายะ สุขขะวัฑฒะโก โหตุ อายุ วัณณะ สุขะ พะลัง อัมหากัง รักขันตุ สะวาหะ สะวาหา สะวาหายะ ( 3 จบ ) |
เครื่องบวงสรวง กระทงใบตองใส่ข้าวตอก ดอกไม้ อาหารคาว 2 –3 ชนิด นมสด เนย ใบกะเพรา (ต้นตุลสี) เมล็ดข้าว เมล็ดถั่วเขียว ถั่วแดง ตะเกียงน้ำมันมะพร้าว เครื่องหอมต่าง ๆ ขนมหวาน 5 ชนิด ผลไม้ 3 ชนิด กล้วย มะพร้าวอ่อน อ้อย ธงผืนน้อย ๆ สีเขียว 7 ผืน ผ้าแพรผืนเล็ก ๆ 3 ผืน (สีแดง-เขียว-เหลือง) ตุ๊กตาปูนปั้นหรือตุ๊กตาไม้แกะสลักเล็ก ๆ รูปม้า ช้าง หรือวัวควาย |
ขอให้ทุกๆท่าน มีความสุขความเจริญ สุขภาพแข็งแรง
ขอบคุณครับ
ศรีจินดา